ตั้งใจไว้ว่าเดินทางครั้งหน้าจะต้องจัดกระเป๋าและเตรียมทุกอย่างให้เสร็จอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ก่อนวันเดินทาง...
แต่วันนี้จะออกบ้านสองทุ่ม, ตอนทุ่มกว่าๆ ถึงจะเก็บทุกอย่างลงกระเป๋า...
นุ
ก,
น้องชายมารับตอนหกโมง ที่จริงนัดกันไว้ตอนสองทุ่ม
แต่พอเลิกงานเสร็จก็ขี้เกียจกลับบ้านเลยมารับแต่หัวค่ำ
ยังจัดของไม่เสร็จเลยเปิดไวน์เลี้ยงต้อนรับ
(แปลว่า มาไวมัยเนี๊ยะ...ยังจัดเป๋าไม่เสร็จ...ดื่มรอไปก่อนแระกัน)
กว่าจะยัดทุกอย่างลงกระเป๋าเสร็จ
แล้วขึ้นไปอาบน้ำและพร้อมออกบ้านก็ทุ่มกว่า
พอปิดบ้านเรียบร้อยแล้วก็พากันไปทานอาหารเย็นที่ร้าน คาซ่าเดอโวโซ่
อาหารอร่อยเว่อร์...ราคาพอควร...บริการยอดเยี่ยม
วันนี้สั่งแต่อาหารไทยเพราะจะเดินทางไปต่างประเทศเลยอยากทานอาหารไทยให้หนำ
ใจ ก่อนจะไม่ได้ทานอีกสี่สิบกว่าวัน...
มา
ถึงสนามบินก็เช็คอิน เนื่องจากมาไวกว่าปกติจึงไม่ต้องต่อแถวรอนาน
เช็คอินที่เคาน์เตอร์, ได้บอร์ดดิ้งพาส
เชียงใหม่-อินเชิน, อินเชิน-ดัลลาส
ส่วนกระเป๋าก็เช็คอินส่งตรงไปดัลลาสเลย
สะดวกดี... จากนั้นขึ้นชั้นสองในส่วนของอินเตอร์เนชั่นแนล
ผ่านด่านตรวจคนออกเมือง (ภาษาอังกฤษคือ อิมมิเกรชั่น
คือใช้เรียกที้งขาเข้าและขาออก... ส่วนภาษาไทย
เห็นเรียกกันว่าด่านตรวจคนเข้าเมือง
ไม่เห็นใครเรียกด่านตรวจคนออกเมืองเลยอ่ะ
อิ..อิ..)
ออกเมืองนี่มันง่ายดายซะเหลือเกิน...
เด๋วไปด่านตรวจคนเข้าเมืองที่อเมิรกาไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง...
ค่อยมาเขียนเล่าประสบการณ์ถ้าเจออะไรที่ควรแก่การนำมาเล่า...
ตอนนี้เกือบห้าทุ่ม,
ก็ได้แน่นั่งรอ..รอ..รอ..
มีบุหรี่แต่ไม่มีไฟแช็ค...
เข้าไปห้องสูบบุหรี่ขอต่อบุหรี่จากชาวเกาหลี, มัยเขาเอาไฟแช็คเข้ามาได้...
แต่ของเราใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางใต้เครื่องตลอด...
ห้า
ทุ่มครึ่งเรียกขึ้นเครื่อง เครื่องออกตรงเวลาตอนเที่ยงคืน ฟ้าไม่เปิด,
ฝนตกปรอยๆ
ทำให้ประหวั่นเล็กน้อย
เพราะช่วงนี้มีข่าวเครื่องบินตกบ่อยเหลือเกิน เพลียมากมายแต่ก็นอนไม่หลับ
ได้แต่หลับตาพักผ่อน พอตีสามครึ่งเครื่องก็เปิดไฟสว่างโร่
เพื่อปลุกผู้โดยสารให้ตื่นมาทานอาหารเช้า
เพราะเวลาที่เกาหลีไวกว่าเมืองไทยสองชั่วโมง
ก็เท่ากับว่าปลุกให้มาทานตอนตีห้าครึ่ง ก็เหมือนปกติที่อาหารบนเครื่องบิน
รสชาดไม่ต่างจากอาหารโรงพยาบาล
(ความคิดเห็นส่วนตัว)
เครื่อง
ลงจอดตอนเจ็ดโมงเช้าตามเวลาที่เกาหลี เดินผ่านด่านตรวจวัตถุอันตราย ทั้งๆ
ที่เพิ่งลงจากเครื่อง ไก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม...
มารอขึ้นเครื่องที่ประตู
กว่าเครื่องจะออกอีกสามชั่วโมงกว่า
แต่ยังดีที่สนามบินอินชอนมีฟรีไวไฟ
แถมยังมีที่ชาร์ตแบตให้อีกด้วย
มีอินเตอร์เน็ตใช้นี่ฆ่าเวลาได้ดีเลยทีเดียว
นั่งเครื่องลำนี้อีก
13 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ไฟล์
ทตอ่ไปออกตอนสิบเอ็ดโมงเช้าตามเวลาที่เกาหลี โดยบินจากสนามบินอินชอนสู่
ดัลลาส,
เท็กซัส ใช้เวลาทั้งสิ้น 13 ชั่วโมง เนื่องจากเดินทางบ่อยๆ
เลยเลือกที่นั่งติดทางเดิน เพราะนั่งเครื่องนานๆ นี่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย,
ไม่อยากอั้น
และจะลุกเหยียดแข้งเหยียดขาก็สะดวก
เจอเพื่อนร่วมทางเป็นคนไทยชื่อตรี
ทำงานบริษัทปิโตรเลียม
เดินทางไปอเมริกาเพื่อสัมมนาฝึกงานอะไรสักอย่าง
ไฟล์ทนี้ดูหนังจบไปสามเรื่อง หลับๆ ตื่นๆ เวลากินข้าก็งงๆ
ไม่รู้ว่ามื้อไหนเป็นมื้อไหน
ลืม
เขียนเล่าประสบการณ์ว่าตอนเช็คอินแล้วจะเดินขึ้นเครื่องถูกสุ่มเลือกไปตรวจ
ทั้งสแกน ทั้งค้นกระเป๋า เสียเซลฟ์ ไปเลยทีเดียว
ตั้งแต่เดินทางท่องเที่ยวมาเกือบสิบปีนี่ไม่เคยโดนสุ่มเลือกเลยนะ...
สงสัยหน้าตาคงแก่ไปมากและเปลี่ยนไปในทางที่ไม่น่าไว้วางใจหรือเปล่า
อิ..อิ..
บอกลา
วิศวกรหนุ่มแล้วพากันเดินไปด่านตรวจคนเข้าเมือง
คนไม่เยอะเท่าด่านที่ซานฟรานซิสโก แต่ช้ามาก
เครื่องลงตั้งแต่สิบโมง
กว่าจะผ่านออกไปเอากระเป๋าก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงครึ่ง
เจ้าหน้าที่ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย โดยเฉพาะแถวที่เราต่อ
พอถึงคิวเราก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย
แต่เช็ควีซ่าและพาสปอร์ตของเรานานมากกว่าสิบห้านาที
พาสปอร์ตกับวีซ่าอยู่คนละเล่ม เพราะวีซ่าของเราสิบปี ได้มาตั้งแต่ปี
2006 และพาสปอร์ตไทยมีอายุแค่ห้าปี.
เมื่อปลายปีก่อนไปฮาวายและนิวเจอร์ซี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย...
หลังจากใช้แว่นขยาย (เหมือนแว่นส่องพระ
แต่ใหญ่กว่า) ส่องจนพาสปอร์ตเกือบทะลุ
ทำเหมือนวีซ่าของเราเป็นพระเครื่องไปได้... ก็สแตมป์ให้เราเข้าเมืองได้...
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงช้านัก
พอ
ลลงมาเอากระเป๋าที่สายพาน และนั่งรออยู่นานแล้ว เพราะเป็นอเมริกัน,
แถวสั้นและไม่ต้องตรวจอะไรมาก
จากนั้นพากันเดินไปทางออก
นึกว่าจะมีคนมารอรับ
เพราะเราระบุให้โรงแรมที่จองไว้มารับ
เดินหาสักพักก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้โทร.หาโรงแรมให้หน่อย
เพราะไม่มีตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญเลย
สรุปว่าต้องเดินออกไปที่จุดจอดรถรับผู้โดยสาร รอเกือบครึ่งชั่วโมง...
นึกถึงบริการที่เมืองไทยเป็นเลิศจริงๆ
มีคนมาถือป้ายรอ
แต่ที่นี่ต้องตามหาเอาเอง
มาถึงโรงแรมก็
เข้าเช็คอินที่เคาน์เตอร์
โดนปฏิเสธให้เข้าพักเพราะเวลาเช็คอินที่โรงแรมนี้บ่ายสามโมง
ซึ่งตอนนี้เวลาเที่ยงกว่า... เราเอาเอกสารที่เราระบุว่าจะเช็คอินก่อนเวลา
พนักงานเลยเอาไปถามผู้จัดการ,
สรุปว่าให้เช็คอินก่อนเวลาได้
เราได้ห้องชั้นสอง วิวล๊อบบี้ ห้องใหญ่และสะอาดดี
เปิดกระเป๋าเอาเสื้อผ้าแล้วปรี่ไปอาบน้ำ,
เสร็จแล้วเปิดทีวีดู
ผลอยหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว.... ตื่นมาอีกทีสี่ทุ่มกว่า
หิวข้าวนิดหน่อย แต่ขี้เกียจออกไปหาร้านอาหาร
เลยตัดสินใจอดข้าวเย็นซะงั้น....
ห้องพักที่โรงแรม DFW Airport Hotel
No comments:
Post a Comment