2017-03-26 ตื่นแต่เช้าเพราะทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง... กระเป๋าก็ยังจัดไม่เสร็จ, ซองพาสปอร์ตของฝากให้พี่ชายและพี่สะใภ้ของพอลก็ยังทำไม่เสร็จ, เครื่องปรุงอาหารทำจะซื้อเตรียมไปทำที่อเมริกาก็ยังไม่ได้ไปหาซื้อ.... ทำไมชีวิตนี้ช่างเป็นคนกระตือรือล้น...น้อย อย่างนี้ ทุกครั้งที่จบทริปก็จะบอกกับตัวเองว่าทริปหน้าจะเตรียมทุกอย่างให้เสร็จก่อนเดินทางหนึ่งอาทิตย์...แต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จสักที
เก็บกระเป๋าจนนาทีสุดท้าย... เดินทางยิ่งนานจัดกระเป๋ายิ่งลำบาก, มีแต่ของจำเป็นต้องใช้...สุดท้ายต้องขนของออกเกือบหนึ่งในสามที่เตรียมไว้เลยทีเดียว...นี่ถ้าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งสักสองใบ จะนั่งเฟิร์สคลาส แบกกระเป๋าหลายๆใบให้สะใจเลยคร้า...
อีกเรื่องที่จะเล่าคือจะใช้บริการอูเบ้อมาสนามบิน...ส่งคำสั่งไปแล้วรอยังไงก็ไม่มา เลยลองกดใหม่ ราคาเพิ่มจาก 150 เป็น 240 เป็นงง เลยขี่มอร์เตอร์ไซด์มาโบกสองแถวหน้าปากซอย ยังไม่ถึงไหนเลยเสียสองร้อยแล้วอ่ะ... เห่อๆๆ... บ่าอยากแอ่วละ
================
2017-03-27 เปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี 9 ชั่วโมง.. ที่จริงเขามีทัวร์ฟรี แต่พอลจองห้องไว้ตั้งแต่หกเดือนก่อนแระ... ครั้งนี้เลิศคร้าพักแกรนด์ไฮแอท อินชอน ... ห้องสู้เคปนิทราหัวหินไม่ได้แต่คงเอามาเทียบกันลำบากเพราะอันหนึ่งเป็นบูทิค และอีกที่เป็นแค่โรงแรมสนามบิน...เหอๆ..วิพากษ์วิจารณ์คร้า...
ถึงห้องไม่พูดพร่ำทำเพลง กระโดดขึ้นเตียง...หลับคร่า..ก็ออกจากเชียงใหม่เที่ยงคืน กว่าจะผลอยหลับก็ตีหนึ่ง... ตีสองครึ่งปลุกมาทานอาหารเช้า, อยากถามว่ามันใช่เวลาไหมอ่ะ... แต่ก็กินคร้า 555
ตั้งปลุกไว้เที่ยง แต่ตื่นไปอาบน้ำก่อนนาฬิกาปลุก ... ถ่ายภาพโถส้วมมาให้ดูไม่ใช่เพราะหิวอะไรหรอกนะ555 เคยใช้ห้องน้ำอัตโนมัติที่เกาหลีมาก่อน แต่ที่นี่นอกจากฉีดตูด, อุ่นที่นั่ง, ปรับอุณหภูมิน้ำอัตโนมัติแล้ว ยังเพิ่มความอลังโดยมีขั้นตอนของการเป่าแห้งด้วยลมอุ่นอีกด้วย
ถึงจะเป็นโรงแรมหรูห้าดาว แต่เราเป็นแค่ลูกค้า Transit ใช้ Day use ได้กุญแจจากเค้าน์เตอร์แล้วต้อง ต้องลากกระเป๋าเอง, เดินไปที่ห้องเอง....
โรงแรมมีสองส่วน, ส่วนนี้สำหรับลูกค้าจากสนามบิน, แค่มาถึงก็หลับแล้วออกเดินทางต่อ... ห้องจึงไม่ได้ตกแต่งหรูหราอะไรมากนัก ขนาดของห้องก็ไม่ได้อลังค์การ สมชื่อ Grand Hyatt อย่างที่เราคาดหวัง
ปุ่มต่างๆ สำหรับชักโครก... ทุกครั้งที่ใช้ห้องน้ำที่มีฟังก์ชั่นต่างๆ ก็จะต้องมาทำความเข้าใจว่าเราต้องกดปุ่มไหนบ้าง... ที่ถ่ายมาเพราะเครื่องนี้มีฟังก์ชั่นเป่าตูดแห้งด้วยอ่ะ
วิวจากหน้าต่าง... หน้าต่างเป็นผนังทั้งบาน วิวสนามบินอินชอน อาคารที่เห็นอยู่หลังแนวพุ่มไม้คือตัวสนามบิน ตอนที่ถ่ายรูปหมอกลงเยอะมาก แต่กล้องกลับถ่ายออกมาชัดเกิน, ไม่ค่อยเห็นหมอกเลย.
ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เก็บของลงมาทานเที่ยงที่ห้องอาหารของโรงแรม เป็นบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกเยอะมาก รสชาติใช้ได้ แต่ขอคอมเพลนว่าเราทำกิมจิได้อร่อยถูกปากเรามากกว่าของที่นี่ซะอีก (อิ..อิ.. มั่น มว๊าก)
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนุ่มสาวไทยจำนวนมากถึงคลั่งไคล้ชาวเกาหลี... คนที่นี่หน้าตาดี ใครชอบขาวๆ หมวยๆ ตี๋ๆ ที่นี่สวรรค์เลยทีเดียว หนุ่มที่มาบริการโต๊ะเราหล่อใจละลาย... เรากับพอลถึงขนาดจะแย่งผู้ชายกันเลยทีเดียว 5555
ทานเสร็จก็มารอ shutter bus หน้าโรงแรม ข้างนอกหนาวมาก คนอื่นใส่เสื้อกันหนาวกันหมด มีแต่สาวเหนืออย่างเราใส่เสื้อแขนสั้นยืนสั่นอยู่คนเดียว โชคดีที่ไม่ได้รอนาน ไม่งั้นต้องไปขอ ซบอก หนุ่มๆ ให้อบอุ่นใจไปเลย... บนรถบัสมีไวไฟให้ใช้ด้วย อะไรจะบริการดีขนาดนั้น...
บุฟเฟ่ต์ มีหลายมุม, มุมอาหารเกาหลี, ญี่ปุ่น, จีน, ยุโรป, อาหารย่าง และมุมของหวาน
ดูหุ่นพอลแล้วอยากให้จำกัดอาหาร... แต่รู้สึกว่าจะทานอาหารอร่อยมากไปหน่อย อิ..อิ..
ยังไม่ค่อยตื่นเท่าไหร่...
รอบแรกตักซีฟู้ด
รอบสองอาหารเกาหลีและอาหารย่าง
ตามด้วยของหวาน...แต่ตอนทานซีฟู้ดไม่เห็นขิงดอง..เลยเอาขิงดองมาเป็นของหวานด้วย...พนักงานมองเราด้วยสายตาแปลกๆ...
หล่อนมีความสุขมากๆ ขนมเต็มจาน...
ออกมารอรถบัสไปสนามบินหน้าโรงแรม
โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน นั่งรถประมาณสิบนาทีก็ถึง... เครื่องจะออกตอนสี่โมงเพราะฉะนั้นต้องไปนั่งรอสองชั่วโมงกว่า ซึ่งปกติเดินทางระหว่างประเทศก็ต้องเช็คอินก่อนเดินทางสองชั่วโมงอยู่ดี
ผ่านด่านตรวจโดยไม่ต้องเช็คอินเพราะได้บอร์ดดิ้งพาสมาตั้งแต่เชียงใหม่แล้ว... เดินผ่านดิวตี้ฟรีแวะซื้อบุหรี่, ยี่ห้อนี้ซื้อที่กัมพูชาแล้วติดใจเพราะรสดีมากๆ ... ห้องสูบบุหรี่อยู่ใกล้กับที่นั่งรอเครื่อง, ที่จริงเดินเข้าไปแล้วไม่ต้องจุดบุหรี่ก็ได้ เพราะคนสูบกันควันโขมงโฉงเฉง... ผู้ชายทั้งหนุ่มและมีอายุมาสูบกันเต็มไปหมด, ส่วนผู้หญิงก็จะเป็นรุ่นป้าๆ มาสูบกัน...
ห้องสูบบุหรี่...เข้าไปข้างในที่จริงไม่ต้องจุดบุหรี่ก็เหมือนได้สูบบุหรี่ทีละซองเลยทีเดียว
เครื่องออกตอนสี่โมงเย็น สามโมงเกือบครึ่งก็เรียกขึ้นเครื่องแล้ว พอลนั่งติดหน้าต่าง, เรานั่งติดทางเดินเพราะเข้าห้องน้ำบ่อย เราเลือกที่นั่งตั้งแต่จองตั๋วเมื่อปีก่อน เหตุผลที่เลือกที่นั่งอย่างนี้เพราะถ้าเครื่องไม่เต็มที่ตรงกลางก็จะว่างและกลายเป็นของเราโดยปริยาย... แต่ถ้าไม่ว่างก็เผื่อจะมีหนุ่มๆมานั่งให้สยิวหัวใจ...แต่ครั้งนี้กลับกลายเป็นอีลุงชาวเกาหลีแก่ๆ ตาสั้นหูไม่ค่อยได้ยิน..แหม่ๆๆ ผิดหวังคร้า.
ถึงสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก แล้วต้องไปต่อแถวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง คนไม่ค่อยเยอะอย่างที่คิด เพราะมาอเมริกาทีไรแถวจะล้นออกไปถึงทางที่เดินเข้ามาเลยทีเดียว... แต่ต่อแถวได้สักพัก คนก็เริ่มทะยอยมาต่อแถวหลังเราเต็มไปหมด, โชคดีที่เครื่องของเราลงก่อน... ที่ด่านตรวจแต่ละคนที่เข้าเมืองจะโดนสอบถามและแต่ละคนก็ใช้เวลาต่างกันไป บางคนเราเห็นเจ้าหน้าที่ซักละเอียดมาก ยืนหน้าเคาน์เตอร์เป็นสิบกว่านาทีก็มี. ของเราเข้าครั้งที่ 6 แล้ว.. ตรั้งนี้โดนถามแค่ว่ามาทำไม, อยู่กี่วัน แล้วก็สแกนนิ้ว ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาทีก็เสร็จ แต่ตอนเข้าแถวรอก็ยังประหม่าอยู่ดี เพราะถึงมีวีซ่าแต่เจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองก็ได้ แล้วแต่ว่าเรามีพิรุธอะไรหรือไม่ หรือแครูปลักษณ์ไม่น่าไว้ใจถ้าเขาจะไม่ให้เข้าก็ได้. เรารู้จักพี่คนหนึ่งที่เชียงใหม่ เขาโดนปฏิเสธให้เข้าอเมริกาทั้งที่มีวีซ่าและเคยเข้าอเมริกาหลายครั้งแล้ว... ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ว่าประเทศไหน เราก็ประหม่าเสมอ.
พอลเป็นชาวอเมริกันเลยเข้าเมืองได้ไวกว่า จึงมารอรับกระเป๋าที่สายพาน. ปรากฎว่ากระเป๋าใบหนึ่งบุบประมาณฝ่ามือเจ้าหน้าที่สายการบินก็ไม่เห็นสักคน ขี้เกียจรอเลยไม่ได้เคลม... แท็กติดกระเป๋าที่เราทำหายไปหนึ่งอัน.. เซ็งเล็กน้อย, แต่ไม่เป็นไร, เดี๋ยวค่อยทำใหม่
รอชัทเตอร์บัสหน้าประตูทางออก เสื้อกันหนาวอยู่ในกระเป๋า อากาศหนาวพอควร, 16 องศา... แต่รอไม่ถึง 5 นาทีรถก็มา.. นั่งรถไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงโรงแรม... เช็คอินได้ตอนสี่โมง. แต่ตอนนั้นยังแค่สิบเอ็ดโมงกว่า เราจะเช็คอินเลย ต้องจ่ายเพิ่มอีก 15 เหรียญ
พอขึ้นห้อง เราพยายามจะไม่นอนเพราะต้องการให้ร่างกายปรับเวลา... หันไปมองเตียงพอล, อ้าว หลับไปซะแล้ว... เราทนได้แค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ผล็อยหลับไป สะดุ้งตื่นตอนสามโมงกว่าเพราะพอลปลุก... ใกล้เวลาที่นัดเพื่อนของพอลจะมารับไปทานอาหารเย็นแล้ว
ข้าวต้มอาหารเช้าบนเครื่องก่อนจะถึงซานฟรานซิสโก
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เจอป้ายนี้ขอถ่ายซะหน่อย...
พอลเดินไปถามรถบัสที่มารับไปโรงแรม
เย้...ใกล้จะถึงโรงแรมจะได้พักแล้ว
หน้าโรงแรมติดถนนหลวงเลย...
เตียงในห้อง...
มีทีวี, โต๊ะทำงาน, เก้าอี้นั่งเล่น... ชา, กาแฟและเครื่องชง...ตู้เย็นอยู่ในตู้ใต้ทีวี... ทีวีที่นี่มีหกร้อยกว่าช่อง...
ห้องน้ำสะอาด... ที่อเมริกาไม่มีน้ำขวดฟรีให้ เพราะสามารถดื่มน้ำจากก๊อกได้เลย
สี่โมงกว่าเพื่อนพอลมารับไปทานอาหารเย็น พอลอยากไปร้านเลอนัย เป็นอาหารโพลีนิเชี่ยน แต่หาร้านไม่เจอ เลยขับรถกลับมาร้านอาหารจีนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม อาหารอร่อยดี ห้าคน หกพันสาม เพลีย....
กลับโรงแรมบอกลากันเสร็จ พอขึ้นห้องก็หลับเลย...ที่จริงตาจะลืมไม่ขึ้นตั้งแต่ตอนทานอาหารเย็นแล้ว...
สะดุ้งตื่นตอนเที่ยงคืนกว่า..เช็คเฟ็กซ์บุ๊ค...เลี้ยงวัวเลี้ยงไก่ ยังไงก็นอนไม่หลับจนเช้า....
ฮวนโช, เพื่อนชาวฟิลิปปินส์แต่มาโตที่ซานฟรานซิสโก... เราเคยไปพักที่อพาร์ทเม้นท์เขาเมื่อมาอเมริกาครั้งแรก และครั้งที่สอง
ซุปปู
ผัดถั่ว
หอยเชลผัดผัก...ขอบอกว่าหอยใหญ่มว๊าก..
ผัดหมี่
เป็ดปักกิ่ง อร่อยพอๆกับร้านแยงซีเจียง นิมมานซอย 5 แต่แผ่นปอเปี๊ยะที่นี่ไม่บางเหมือนร้านแยงซีเจียง... กินเกือบหมดจานจึงรู้ว่าลืมถ่ายรูปอ่ะ...
ฮวนโช, แม็กซ์, แกลรี่, เรา และ พอล.... ขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาทานอาหารด้วยกัน... อีกเดือนกว่าๆ จะกลับมาใหม่จร้า...
ของขวัญจากฮวนโช...ถุงเก๋มากๆ
พอเปิดมาดูเป็นแจ๊กเก็ตหนัง...ดีใจมากมาย, เพราะเพิ่งคุยกับพอลว่าจะต้องแวะซื้อเสื้อกันหนาวที่ไม่หนามากนัก..เพราะตัวที่เอามาใส่แล้วร้อนเพราะเป็นขนเป็ด....
วันนี้เขียนเยอะไปหน่อย เพราะมีอะไรให้เขียนมากมาย. อีกทั้งยังได้เวลาเพิ่มจากเวลาที่แตกต่างอีก 10 ชั่วโมง
=== เริ่มเขียนมาสองสามวันแล้วเพราะถ้าโพสท์ลงเฟ็กซ์บุ๊คตลอดก็จะเป็นที่รำคาญของเพื่อนๆ เพราะมีแต่เรื่องราวที่อยากเขียนเล่า.... เราใช้มือถือเขียนบล๊อกเลยทำให้ช้ามากๆ อีกอย่างเราใช้แอพ Blogger ซึ่งตอนนี้เขาไม่พัฒนาแอพอีกต่อไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไร===
No comments:
Post a Comment